คืออะไรที่เรียกว่าคุกกี้?

คุกกี้ (Cookies) คือไฟล์ข้อความเล็ก ๆ ที่ถูกเก็บไว้ในบราวเซอร์ของผู้เยี่ยมชมโดยเว็บไซต์ของคุณ.

คุกกี้ใช้ทำอะไร?

คุกกี้ (Cookies) ทำหน้าที่สองอย่างพื้นฐาน: แหล่งประสบการณ์ของผู้เยี่ยมชมที่ดีขึ้นในเว็บไซต์ของคุณและติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้บนเว็บไซต์ของคุณ.

มีคุกกี้ชนิดไหนบ้าง?

มีคุกกี้สองประเภทหลัก: คุกกี้เซสชั่น (Session cookies) และคุกกี้ถาวร (Persistent cookies) .

คุกกี้คืออะไร

ทุกๆวันคุกกี้หลายพันล้านเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ตอนเขาเข้าสู่เว็บไซต์ แต่มันป็นตัวอะไร เราจะมาอธิบายจากมุมมองของเจ้าของเว็บไซต์ เตรียมเว็บไซต์สำหรับ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA หรือไง?
รับการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกำหนด

คุกกี้คืออะไร

คุกกี้คือข้อมูลขนาดเล็กซึ่งถูกเก็บไว้ที่ เว็บเบราว์เซอร์ เช่น ข้อมูลการเข้าถึงเว็บไซต์ หรือข้อมูลส่วนตัวของบุคคลที่ได้มีการลงทะเบียนกับเว็บไซต์นั้น

โดยทั่วไปไฟล์เหล่านี้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าภาษาหรือตำแหน่งที่ต้องการของผู้เยี่ยมชม แต่สามารถจัดเก็บข้อมูลได้หลากหลายรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนได้ ข้อมูลจะถูกส่งผ่านระหว่างเบราว์เซอร์และเว็บเซิร์ฟเวอร์ซึ่งทำให้เว็บไซต์สามารถจดจำการตั้งค่าของผู้เยี่ยมชมของคุณได้ เมื่อพวกเขากลับมาเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณ

คุกกี้มีหลายประเภท การจัดประเภทขึ้นอยู่กับการหมดอายุ, ใครเป็นคนตั้งค่า และหน้าที่ของพวกคุกกี้ต่างๆ
มาดูกันดีกว่าว่าคุกกี้คืออะไร

คุกกี้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

คุกกี้มี 2 ชนิดคือ เขาปรับปรุงประสบการณ์ของผู้เข้าชมและติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้บนไซต์ของคุณ
เมื่อผู้เยี่ยมชมกลับมายังเว็บไซต์ของคุณ เว็บไซต์ของคุณจะอ่านข้อมูลในคุกกี้และจดจำการตั้งค่า คุกกี้ยังได้รับการออกแบบมาเพื่อติดตามผู้เยี่ยมชมบนเว็บไซต์ของคุณและทั่วทั้งเว็บ

บริษัท หลายแห่งที่ให้บริการซอฟต์แวร์ (analytics, widgets, add-ons, CRM’s) ติดตั้งคุกกี้ผ่านเว็บไซต์ของคุณ

คุกกี้เหล่านี้ถูกใช้ไม่เพียงแค่ประโยชน์ของคุณเท่านั้น แต่ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดด้วย

คุกกี้มีประเภทใดบ้าง?

คุกกี้มีสองหลัก ได้แก่ คุกกี้เซสชันและคุกกี้ถาวร คุกกี้เซสชันจะถูกเก็บไว้ชั่วคราวและจะถูกลบเมื่อผู้ใช้สิ้นสุด “เซสชัน” ในเบราว์เซอร์ คุกกี้ประเภทนี้จะติดตามการเยี่ยมชมของผู้ใช้และป้องกันไม่ให้ไซต์ของคุณขอข้อมูลเดิม เช่นข้อมูลการเข้าสู่ระบบ Persistent cookies หรือ คุกกี้ถาวร จะถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ (แท็บเล็ตโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์) คุกกี้เหล่านี้จะยังอยู่ในอุปกรณ์จนกว่าจะถึงวันหมดอายุ เมื่อใดก็ตามที่ผู้เยี่ยมชมของคุณกลับมาที่ไซต์ของคุณ เบราว์เซอร์จะส่งข้อมูลที่เก็บไว้ในคุกกี้ ไปในไซต์ของคุณ คุกกี้เหล่านี้สามารถระบุผู้ใช้ซึ่งคุณสามารถใช้สำหรับ analytics และ ระบบ CRM เพื่อติดตามผู้เยี่ยมชม leads และลูกค้า ด้วยเหตุนี้บางครั้งจึงเรียกว่า tracking cookies

คุกกี้ติดตามข้อมูลอะไรบ้าง?

คุกกี้อาจจัดเก็บข้อมูลผู้เยี่ยมชมของคุณจำนวนเท่าใดก็ได้ ข้อมูลบางอย่างให้ข้อมูลธุรกิจของคุณ ข้อมูลประเภทอื่น ๆ จัดอยู่ในประเภทข้อมูลส่วนบุคคล นี่คือภาพรวม:

User specific

Online identifiers and IDs (user IDs, device IDs, marketing IDs etc.)
เลขที่อยู่ไอพี
ข้อมูลเข้าสู่ระบบและรหัส
ระบบ เบราว์เซอร์ ตั้งค่าภาษา ฯลฯ

กิจกรรมและพฤติกรรมของผู้ใช้

Page views
ข้อมูลการซื้อ (รายการสินค้าในตะกร้า)
Website referrals (channel, social media, search engine, campaign)
Time stamps
การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว เช่นการตั้งค่าคุกกี้

European Commission’s guide to cookies

ใครเป็นคนที่ตั้งค่าคุกกี้บนอุปกรณ์ของผู้ใช้ของคุณ

ดยพื้นฐานแล้ว คุกกี้ถูกติดตั้งโดยเว็บไซต์ของคุณเอง (first-party cookies) หรือโดยเครื่องมือบริการที่ใช้งานบนไซต์ของคุณ (third-party cookies). ปกติ First-party cookies จะใช้เพื่อทำหน้าที่พื้นฐานเช่นทำให้ผู้ใช้ของคุณเข้าสู่ระบบไซต์หรือจดจำรายการในตะกร้าสินค้า Third-party cookies จะถูกใช้กำหนดโดย บริษัท อื่นผ่านเว็บไซต์ของคุณ Third-party cookies นั้นจะให้ข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ analytics หรือ google ads. ส่วนใหญ่ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ของคุณเพื่อสร้างโปรไฟล์และเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด ตัวอย่างของบุคคลที่สามคือ:

คุกกี้มีความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัวหรือเปล่า?

คุกกี้มีข้อมูลเกี่ยวกับการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณของผู้ใช้ ข้อมูลบางส่วนอาจถูกจัดประเภทเป็นข้อมูลส่วนบุคคล อาทิเช่น เลขที่อยู่ไอพี, ตัวระบุ,โลเคชั่น และอื่นๆ

แต่ไม่สามารถใช้คุกกี้เพื่อแฮ็กข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้หรือนำซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย

บริษัท ต่างๆใช้คุกกี้ tracking เพื่อสร้างโปรไฟล์ของผู้ใช้ที่ละเอียดมากซึ่งใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดเช่นเพื่อกำหนดเป้าหมายโฆษณาเฉพาะผู้ใช้

เพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น เว็บไซต์มักจะใช้บริการของบุคคลที่สาม (third-party) ตัวอย่างเช่น ปุ่มแชร์ของ Facebook ทำให้ Facebook สามารถติดตามกิจกรรมของผู้ใช้ผ่านอินเทอร์เน็ตทั่วไปตามปุ่มแชร์อื่น ๆ ที่ถูกนำไป

ด้วยข้อมูลนี้ Facebook และแพลตฟอร์มอื่น ๆ สามารถกำหนดเป้าหมายโฆษณาตามการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของผู้ใช้ การเลื่อนตำแหน่ง และเมตริกอื่น ๆ อีกมากมาย

ดังนั้นการใช้คุกกี้ข้อมูลที่รวบรวมและประมวลผลจึงได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด

Link: กฎของคุกกี้คืออะไร?